เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้ การปิดข้อความนี้แสดงว่าคุณยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา We use cookies to enchance your visit to our site. Read our Privacy Policy to find out more.

ททท. จับมือ เดทตอล ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจสัญลักษณ์ SHA

ททท. จับมือ เดทตอล ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจสัญลักษณ์ SHA

     วันที่ 2 เมษายน 2564 ณ ห้องโถงจารุวัสตร์ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และ นายโรฮิต จินดาล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA โดยความร่วมมือดังกล่าวมีขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนมาตรการด้านความสะอาดและปลอดภัย ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมรณรงค์เครือข่ายทั่วประเทศให้ตระหนักถึงความสำคัญและมีความมั่นใจภายใต้สัญลักษณ์ “SHA”

     นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA เป็นมาตรฐานที่กระตุ้นและผลักดันให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และให้การท่องเที่ยวมีมาตรการในการควบคุมโรค และเป็นที่น่ายินดีที่มีพันธมิตรอย่าง “เดทตอล” มาช่วยให้ความรู้ด้านสุขอนามัยโดยผู้เชี่ยวชาญและต่อยอดให้มาตรฐาน SHA เป็นที่ยอมรับในระดับสากลผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนนายยุทธศักดิ์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า ของมาตรฐาน SHA ว่า ทาง World Travel & Tourism Council (WTTC) หรือสภาการท่องเที่ยวโลก ให้การรับรองว่าสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ถือว่าได้มาตรฐานตามข้อกำหนด Safe Travels Stamp เเละสามารถใช้ประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาดได้ ผ่านช่องทางส่งเสริมการตลาดต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้นซึ่งปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ในประเทศไทย ถือว่าดีขึ้น มีการกระจายวัคซีนรวมทั้งมาตรการต่างๆ มีการผ่อนคลายมากขึ้น ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ทำให้มีความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมเเละต่อยอดให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีความเข้มเเข็งเเละยั่งยืนต่อไป

     ด้านนายโรหิต จินดาล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานด้านสุขอนามัยขั้นพื้นฐานในแบบ New Normal โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวคือกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทางบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ของ ททท.ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายพันธมิตรและองค์กรหลักต่าง ๆ อาทิ สมาคมโรงแรม สมาคมการท่องเที่ยว สนามบิน สายการบิน สมาคมการค้า ฯลฯ ส่งเสริมการฝึกอบรมและวางมาตรฐานโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศก่อนจะกล่าวขอบคุณที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ ขอบคุณหน่วยงานทุกหน่วย ที่เป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการเเพร่ระบาดของโควิด-19 อยากให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 เราในนามของเดทตอลรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้มาทำให้พี่น้องชาวไทยปลอดภัยขึ้น

ซึ่งบันทึกข้อตกลงมีความร่วมมือประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ดังนี้

  1. การเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและการรับรู้ให้กับธุรกิจที่เป็นพันธมิตรของ ททท. อาทิ การพัฒนาแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA และสนับสนุนการฝึกอบรมให้ผู้ประกอบการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
  2. บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะร่วมประชาสัมพันธ์ ตราสัญลักษณ์ “SHA” เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมั่นใจในตราสัญลักษณ์ “SHA” ว่าเป็นมาตรฐานสุขอนามัยระดับโลกผ่านเว็บไซต์ RECKITT.COM และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีเครือข่ายในหลายประเทศ
  3. ความร่วมมือขับเคลื่อนให้เกิดการตระหนักรู้ถึงการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย โดยการจัดแคมเปญสนับสนุนให้คนไทยเดินทางช่วงสงกรานต์อย่างปลอดภัย และยังแจกผลิตภัณฑ์เจลทำความสะอาดมือช่วงสงกรานต์ 2 แสนชิ้น ในหลากหลายจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ลำปาง ขอนแก่น หนองคาย บุรีรัมย์
  4. จัดแพคเกจพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับมาตรฐาน SHA อาทิ การมอบส่วนลดพิเศษด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ หรือ มอบคู่มือสุขอนามัยสำหรับเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น

     นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานสุขอนามัยด้านการท่องเที่ยวให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ กลาง เล็ก หรือระดับท้องถิ่น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้รับ มาตรฐาน SHA สามารถเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลกได้

     วันที่ 2 เมษายน 2564 ณ ห้องโถงจารุวัสตร์ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และ นายโรฮิต จินดาล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA โดยความร่วมมือดังกล่าวมีขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนมาตรการด้านความสะอาดและปลอดภัย ให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมรณรงค์เครือข่ายทั่วประเทศให้ตระหนักถึงความสำคัญและมีความมั่นใจภายใต้สัญลักษณ์ “SHA”

     นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA เป็นมาตรฐานที่กระตุ้นและผลักดันให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และให้การท่องเที่ยวมีมาตรการในการควบคุมโรค และเป็นที่น่ายินดีที่มีพันธมิตรอย่าง “เดทตอล” มาช่วยให้ความรู้ด้านสุขอนามัยโดยผู้เชี่ยวชาญและต่อยอดให้มาตรฐาน SHA เป็นที่ยอมรับในระดับสากลผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อนนายยุทธศักดิ์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า ของมาตรฐาน SHA ว่า ทาง World Travel & Tourism Council (WTTC) หรือสภาการท่องเที่ยวโลก ให้การรับรองว่าสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA ถือว่าได้มาตรฐานตามข้อกำหนด Safe Travels Stamp เเละสามารถใช้ประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาดได้ ผ่านช่องทางส่งเสริมการตลาดต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้นซึ่งปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ในประเทศไทย ถือว่าดีขึ้น มีการกระจายวัคซีนรวมทั้งมาตรการต่างๆ มีการผ่อนคลายมากขึ้น ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ทำให้มีความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมเเละต่อยอดให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีความเข้มเเข็งเเละยั่งยืนต่อไป

     ด้านนายโรหิต จินดาล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของมาตรฐานด้านสุขอนามัยขั้นพื้นฐานในแบบ New Normal โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวคือกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทางบริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ของ ททท.ในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยให้มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายพันธมิตรและองค์กรหลักต่าง ๆ อาทิ สมาคมโรงแรม สมาคมการท่องเที่ยว สนามบิน สายการบิน สมาคมการค้า ฯลฯ ส่งเสริมการฝึกอบรมและวางมาตรฐานโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศก่อนจะกล่าวขอบคุณที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้ ขอบคุณหน่วยงานทุกหน่วย ที่เป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการเเพร่ระบาดของโควิด-19 อยากให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิด-19 เราในนามของเดทตอลรู้สึกเป็นเกียรติมากที่จะได้มาทำให้พี่น้องชาวไทยปลอดภัยขึ้น

ซึ่งบันทึกข้อตกลงมีความร่วมมือประกอบด้วย 4 ด้านหลัก ดังนี้

  1. การเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและการรับรู้ให้กับธุรกิจที่เป็นพันธมิตรของ ททท. อาทิ การพัฒนาแนวทางมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA และสนับสนุนการฝึกอบรมให้ผู้ประกอบการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
  2. บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะร่วมประชาสัมพันธ์ ตราสัญลักษณ์ “SHA” เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมั่นใจในตราสัญลักษณ์ “SHA” ว่าเป็นมาตรฐานสุขอนามัยระดับโลกผ่านเว็บไซต์ RECKITT.COM และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีเครือข่ายในหลายประเทศ
  3. ความร่วมมือขับเคลื่อนให้เกิดการตระหนักรู้ถึงการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย โดยการจัดแคมเปญสนับสนุนให้คนไทยเดินทางช่วงสงกรานต์อย่างปลอดภัย และยังแจกผลิตภัณฑ์เจลทำความสะอาดมือช่วงสงกรานต์ 2 แสนชิ้น ในหลากหลายจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย เชียงใหม่ลำปาง ขอนแก่น หนองคาย บุรีรัมย์
  4. จัดแพคเกจพิเศษสำหรับผู้ที่ได้รับมาตรฐาน SHA อาทิ การมอบส่วนลดพิเศษด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ หรือ มอบคู่มือสุขอนามัยสำหรับเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น

     นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานสุขอนามัยด้านการท่องเที่ยวให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ กลาง เล็ก หรือระดับท้องถิ่น ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้รับ มาตรฐาน SHA สามารถเทียบเท่ามาตรฐานระดับโลกได้